ตอนเริ่มงาน ทาง Apple ก็ได้ประกาศความก้าวหน้าของ Apple TV+ เล็กน้อย กับ Apple Original Film ที่ได้ทำมาหลายปี ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งได้คว้ารางวัลตามเวทีต่างๆ มา และได้ร่วมงานกับเหล่านักแสดงมากความสามารถได้อย่างต่อเนื่องนะครับ และทาง Apple TV+ ก็ประกาศจะพัฒนา Content ต่อไป ที่จะมีทั้ง ภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี และ Aniamtion ต่อไปในอนาคตนั้นเองครับ
นี้ก็คือสินค้าทั้งหมดที่ทาง Apple จัดงาน Peek performance ประจำปีนี้ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า ก็มีสินค้าหลายตัวที่เรากำลังจับตามองนะครับ และผมก็รู้สึกว่าเจ้า Mac Studio มันก็น่าสนใจมากๆ ด้วยความผสมผสานระหว่าง Mac Mini กับ Mac Pro ในราคาที่เรียกได้ว่าเล็กลงแต่คุณภาพยังสุดยอด ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อการทำงานที่พัฒนาไปอีกขั้นเลยครับ ไหนจะเป็นเรื่องของสีใหม่ของ iPhone 13 อย่างสีเขียวอัลไพน์ที่น่าจับตาของเหล่าสาวกคนชอบสีเขียวนะครับ แล้วเพื่อนๆ มีความรู้สึกอย่างไรกับสินค้าที่เปิดตัวใหม่นี้ ชอบไม่ชอบยังไง มาลองพูดคุยกันได้นะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หากใครต้องการรับชม Apple Keynote ย้อนหลังการเปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ ก็สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ท่าน Apple Event ได้ครับ
คุณผู้ชมหลายท่านอาจจะเป็นสาวกของ Apple อย่างเช่นกับผมเอง และในทุกปีเหล่าสาวกของ Apple ก็ต่างเฝ้ารอคอยการเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ๆ มาให้เรารอเสียเงินอีกเช่นเคย โดยที่เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา (เวลาตี 1 วันที่ 9 มีนาคม 2565) ทาง Apple ก็ได้จัดงาน Apple Event อย่าง "Peek performance" โดยบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาพูดกันว่า มีเรื่องอะไรน่าสนใจอะไรบ้าง
{tocify} $title={Table of Contents}
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จริงๆ แล้วทาง Apple ก็เปิดตัวสินค้าออกมาแทบจะทุกปี และแทบจะตลอดทั้งปีเลยครับ ทั้งช่วงหน้าร้อน หน้าหนาว หรือการเป็นงานพิเศษตามโอกาสต่างๆ ก็เรียกได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับสาวก Apple อย่างผมนั้น รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นงานที่ Apple จัด ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาพูดกัน
ในส่วนของการเปิดตัวสินค้า เป็นงานเปิดตัวสินค้าประเภทของรุ่นเล็กๆ เบาๆ ไม่ได้จัดหนักมากเท่างาน Apple Event ช่วงปลายปี แต่ครั้งนี้เราก็ได้เห็นสินค้าใหม่ๆ ที่ทั้งพัฒนาตัวเก่ามาให้ดีขึ้น รวมถึงสินค้าที่ไม่คิดว่าจะทำขึ้นมากัน โดยในงานนี้มีสินค้าทั้งหมด 3 รายการหลักๆ
Apple TV+
ตอนเริ่มงาน ทาง Apple ก็ได้ประกาศความก้าวหน้าของ Apple TV+ เล็กน้อย กับ Apple Original Film ที่ได้ทำมาหลายปี ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งได้คว้ารางวัลตามเวทีต่างๆ มา และได้ร่วมงานกับเหล่านักแสดงมากความสามารถได้อย่างต่อเนื่องนะครับ และทาง Apple TV+ ก็ประกาศจะพัฒนา Content ต่อไป ที่จะมีทั้ง ภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี และ Aniamtion ต่อไปในอนาคตนั้นเองครับ
ต่อด้วยการอัปเดตเพิ่มสีให้กับ iPhone
iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ก็ได้เปิดตัวสีใหม่ อย่างสีเขียวอัลไพน์ (Alpine Green) โดยมีให้เลือกเพิ่มจากสีที่มีอยู่ 5 สี ก็ได้เพิ่มสีใหม่มาครับ
ในส่วนของราคา iPhone 13 Pro ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท และ iPhone 13 Pro Max ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2565 และเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 25 มีนาคม 2565
iPhone SE ชิป A15 Bionic
มี 3 สีให้เลือกคือ สีดำ สีขาวและสีแดง(Red Product) ขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 64 GB - 256 GB
ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2565 และเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 25 มีนาคม 2565
iPad Air พร้อมชิป M1
หลังจากที่ iPad Air ใช้ชิป A14 มานานแสนนาน ครั้งนี้ได้เวลาเปลี่ยนมาเป็นชิป M1 เหมือนรุ่นพี่ iPad Pro ต่างๆ แล้ว มาพร้อมกับการอัพเกรดสิ่งต่างๆ มากมาย
มีขนาดความจุให้เลือกระหว่าง 64 GB กับ 256 GB มี 2 รุ่นให้เลือกคือ รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท
มี 5 สีให้เลือก คือ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วงและสีฟ้า ซึ่งตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ยังไม่มีการกำหนดเวลาการจำหน่ายในประเทศไทยครับ
สินค้าตระกูล Mac
เปิดตัว Apple M1 Ultra
ก่อนอื่น ก่อนเราจะเข้าไปที่เรื่องของ Mac กัน เรามาเรื่องของชิปประมวลผลตัวใหม่ ที่พึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการ อย่าง ชิป M1 Ultra ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปตัวใหม่จากตระกูล M1 Family ครับ ซึ่งผมยอมรับตรงๆ ตอนที่ดูตอนเปิดตัว ผมอึ้งมากๆ ที่เขาจะมีขั้นกว่าของชิป M1 ครับ เรียกได้ว่าเป็นตัวชิปที่เร็วของเร็วที่สุดในตระกูล M1 ทั้ง 4 ตัว ซึ่งเขาอาศัยการเอาชิป M1 Max จำนวน 2 ตัวมาเชื่อมต่อกันนั้นเอง โดยเรียกว่า "UltraFusion" และมีความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 2.5TB/s
มาพร้อม CPU Core รวมทั้งหมด 20-Core โดยแบ่งเป็น High-performance จำนวน 16-Core และแบบประหยัดพลังงานอีก 4-Core และ GPU อีก 64-Core รองรับ RAM สูงสุด 128 GB ที่มี Bandwidth ปริมาณการรับ และการส่งข้อมูลถึง 800GB/s และยังไม่พอ มี Neural Engine อีก 32-Core
เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่สุดมากๆ สมชื่อกับชื่องานอย่าง Peek performance จริงๆ เลยละครับ เพราะว่าเขาได้มีการให้ผู้ใช้งานจากหลายประเภทงานใช้ดู แล้วมันสามารถทำให้งานทุกอย่างนั้นง่ายขึ้น เร็วขึ้น แม้แต่การเปิดโปรแกรมก็ทำได้เพียงไม่กี่วินาที รวมถึงการ Render สำหรับงาน 3D หรืองานวิดีโอก็ดูราบลื่นไปหมด เพราะว่ามี Media Engine นั้นเอง แถมยังใช้พลังงานที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับชิปที่มีคุณภาพและความสามารถเท่ากันในตลาดโลกของเราในตอนนี้ด้วยครับ
มีชิปใหม่ ก็ต้องมี Mac ใหม่กับการเปิดตัว Mac ตัวใหม่ที่เป็นการผสมผสาน Mac Mini กับ iMac เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
Mac Studio
แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับชิปใหม่อย่าง M1 Ultra (แต่สินค้าให้เลือกได้ระหว่างชิป M1 Max กับ M1 Ultra) ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่แรงมาก
ซึ่งขนาดตัวเครื่องจะสูง 9.5 ซม. กว้าง 19.7 ซม. น้ำหนักไม่มาก เพียง 2.7-3.6 กิโลกรัมเท่านั้น
ในเรื่องของความเร็วไม่ต้องพูดถึง ด้วยความเก่งของชิปประมวลผลอย่าง M1 Max และ M1 Ultra แล้วนั้น เรียกได้ว่าเร็วแรงมากๆ ทำงานอะไรก็ลื่น เร็วไปหมด ทั้งงานด้านกราฟิก ด้านเสียงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดของ Apple เลยก็ว่าได้ และมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างจะแรงแต่คุ้มค่าสำหรับการทำงานระดับ Studio ในเครื่องเพียงเครื่องเดียว
ในรุ่นของชิป M1 Max เริ่มต้นที่ราคา 69,900 บาท และรุ่นของชิป M1 Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 139,900 บาท ซึ่งตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ยังไม่มีการกำหนดเวลาการจำหน่ายในประเทศไทยครับ
Studio Display
จอภาพของ Apple ตัวที่ 2 ที่ออกมาพร้อมกับ Mac Studio ที่ให้เราเต็มอิ่มกับ Retina Display ขนาด 27 นิ้ว ในความละเอียดสูงถึง 5K และความสว่างสูงถึง 600 นิตทำให้จอมีความสว่างและสีที่แสดงออกมาก็ชัดเจน เพราะรองรับสีสันกว่า 1 พันล้านสี
ราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท โดยจะเป็นแบบกระจกมาตรฐาน และหากเลือกเป็นกระจกแบบ Nano-Texture ก็จะเริ่มต้นที่ราคา 65,400 บาทครับ
นี้ก็คือสินค้าทั้งหมดที่ทาง Apple จัดงาน Peek performance ประจำปีนี้ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า ก็มีสินค้าหลายตัวที่เรากำลังจับตามองนะครับ และผมก็รู้สึกว่าเจ้า Mac Studio มันก็น่าสนใจมากๆ ด้วยความผสมผสานระหว่าง Mac Mini กับ Mac Pro ในราคาที่เรียกได้ว่าเล็กลงแต่คุณภาพยังสุดยอด ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อการทำงานที่พัฒนาไปอีกขั้นเลยครับ ไหนจะเป็นเรื่องของสีใหม่ของ iPhone 13 อย่างสีเขียวอัลไพน์ที่น่าจับตาของเหล่าสาวกคนชอบสีเขียวนะครับ แล้วเพื่อนๆ มีความรู้สึกอย่างไรกับสินค้าที่เปิดตัวใหม่นี้ ชอบไม่ชอบยังไง มาลองพูดคุยกันได้นะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หากใครต้องการรับชม Apple Keynote ย้อนหลังการเปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ ก็สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ท่าน Apple Event ได้ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น