Record - โหมดอัดเสียง ที่เราสามารถกดเข้าไปแล้วเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการอัดเสียงได้ แล้วก็เริ่มอัดเสียงพูดที่เราต้องการพูดไปในรายการของเราได้เลย ตรงนี้จะไม่สามารถ Pause ได้นะครับ ต้องอัดยาวๆ แต่สามารถกดหมุด Flag หรือธงไว้ได้ เผื่อเราจะได้เอาไปตัดออกตอนภายหลังจากการอัดเสียงเสร็จแล้ว
Record with friends - โหมดนี้เราจะสามารถเลือกเพื่ออัดเสียงกับเพื่อนจากอุปกรณ์อื่น จากที่ไหนก็ได้ โดยเราเพียงคัดลอกลิงก์จากเครื่องเรา ส่งไปให้เพื่อนเข้าจาก Browser แล้วเลือกเข้ามา ซึ่งเพื่อนก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอุปกรณ์ไหนในการบันทึกเสียง เมื่อพร้อมแล้วก็กด Record ก็จะเป็นการเริ่มบันทึกเสียงได้ทันทีครับ
แล้วเราก็สามารถเอาไป Link ที่ Podcast for Spotify ที่ podcast.spotify.com ซึ่งต้องมีบัญชี Spotify ก่อนนะครับ จะเป็น Premium หรือไม่ก็ไม่เป็นไรนะครับ
เริ่มที่ Get started > I Accept > Get started > วางลิงก์ RSS ที่ได้คัดลอกมาในช่อง Link to RSS feed > Next > ตรวจสอบว่าเป็น Podcast ของเราไหม ถ้าใช่ก็กด Next > ระบบจะให้ Send code ไปยัง E-mail ก็ให้เอารหัสมากรอกครับ > หลังจากนั้นก็ตั้งค่ารายการตามประเภทของรายการและภาษา ก่อนจะกดส่งเหมือนใบสมัคร โดยเราจะต้องรอการตรวจสอบประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ แล้วเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย Podcast ของเราก็ออกอากาศเรียบร้อยแล้วนั้นเอง
ช่วงนี้เรายังคงอยู่กับบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำ Podcast อยู่นะครับ ก็เลยมีหลายคนมาถามว่าปกติผมเองใช้อะไรในการทำ Podcast แล้วใช้ Host ตัวไหนที่คุ้มค่าและง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด ผมก็ต้องตอบตรงนี้ว่า ผมใช้ Host ของ Anchor.fm ครับ โดยเป็น Host สำหรับ Podcast ที่ฟรีและดี พร้อมการเชื่อมต่อไปยัง Spotify ได้ง่ายมากๆ แต่หากจะให้ผมมาสอนวิธีที่ผมทำเอง อาจจะยากไปหน่อย เพราะฉะนั้นในบทความของ TamKung วันนี้ผมจะมาสอนวิธีทำ Podcast ผ่าน Anchor บน iPad หรือบน Smartphone ของเรากันครับ
{tocify} $title={Table of Contents}
เช่นเคยที่ว่า ขอฝากผลงาน Podcast ของ TamKung
ฟัง TamKung Podcast ได้ที่ Spotify Podcast | Apple Podcast | Google Podcast
ผมขอแนะนำ Anchor ให้ทุกคนรู้จักกันก่อนนะครับ
Anchor เป็นแพลตฟอร์มการสร้าง Podcast ที่ร่วมกับ Spotify ซึ่งมีเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถเริ่มการสร้าง Podcast ของเราได้เองแบบง่าย และสามารถบันทึกเสียงจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ พร้อมเครื่องมือในการเผยแพร่ผ่าน Anchor ที่จะสามารถนำไปต่อยอดใน Spotify Podcast หรือ Apple Podcast ได้ผ่านตัว RSS ของ Anchor เท่านี้เราก็จะมี Podcast ของเราที่ไปอยู่บน Streaming ต่างๆ ที่รองรับระบบ Podcast แล้วละครับ และที่ผมว่ามาทั้งหมดคือ มันฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีจำกัดอีกด้วยครับ ผมภูมิใจนำเสนอเลย
วิธีการสมัคร
ฟีเจอร์
การทำงาน
การออกอากาศ Podcast
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น